50 ปี ออร์โธปิดิคส์

กว่าจะถึงวันนี้


ของราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย

นับจากปี พ.ศ.2509 ที่คณาจารย์จากหลายสถาบันได้ก่อตั้ง “ชมรมออร์โธปิดิคส์” เพื่อดำเนินกิจกรรมทางวิชาการและทางสังคมร่วมกัน

จนต่อมาปี พ.ศ.2519 จดทะเบียนเป็น “สมาคมออร์โธปิดิคส์แห่งประเทศไทย” และได้รับพระมหากรุณาธิคุณฯ ให้เป็น “ราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย” เมื่อปี พ.ศ.2539องค์กรทางวิชาชีพของเราจึงถือได้ว่าได้ดำรงอยู่และสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อวิชาชีพสังคมและประเทศมาเป็นปีที่ 53 ในปี พ.ศ.2562 นี้

สมาคมออร์โธปิดิคส์แห่งประเทศไทยที่ถูกก่อตั้งขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมายยังได้สะท้อนถึงความผูกพัน ความสามัคคี และการเกื้อกูลระหว่างสมาชิกที่ขณะนั้นยังมีจำนวนไม่มาก การบริหารงานที่คณาจารย์ทั้งหลายต่างได้ยึดมั่นต่อหลักการออร์โธปิดิกส์ที่มีความหมายถึงการจัดรูปร่าง (form) เพื่อรักษาหน้าที่การทำงานของกระดูกและข้อ (function)

การกำเนิดชมรมออร์โธปิดิกส์

ชมรมออร์โธปิดิกส์ ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ 11 ตุลาคม 2509 โดย อ.นพ.ประเสริฐ นุตกูล, .นพ.ธำรงรัตน์ แก้วกาญจน์  และอ.นพ.วิวัฒน์ กรีพานิช มีแนวคิดร่วมกันในการริเริ่มการรวมตัวของกลุ่มหมอกระดูก (ชื่อในขณะนั้น) โดยได้รับการสนับสนุนจาก อ.นพ.คง สุวรรณรัต , .นพ.เฟื่อง สัตย์สงวน, .นพ,เล็ก ณ นคร  และ อ.สมัคร พุกกะณะเสน โดยที่ อ.นพ.ประเสริฐ นุตกุล เป็นผู้ออกหนังสือเชิญแพทย์ ผู้สนใจมาพบปะกันที่ รพ.กลาง โดยมีผู้เข้าร่วมประชุาในวันนั้นได้แก่ อ.นพ. ประเสริฐ นุตกุล , .นพ.วิวัฒน์ กรีพานิช , .นพ.ธำรงรัตน์ แก้วกาญจน์ , .สมัคร พุกกะณะเสน, .นพ, ประวัติ พิเศษกลกิจ , .นพ, คำนวน คชาชีวะ, .นพ.ปรีชีา ตาปสนันทน์ , .นพ.ชูชาติ อุตตโรทัย , .นพ.สมิทธ์ิ สิทธิพงศ์ และ อ.นพ. อรุณ อุตตเดช

ในการประชุมวันนี้ คือ วันที่ 11 ตุลาคม 2509 ได้มีการตั้งชมรม โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากโรงพยาบาลต่าง ๆ รวม 35 ท่าน ได้แก่

  • .นพ.เฟื่อง สัตย์สงวน    นายก
  • นพ.ประเสริฐ นุตกูล        อุปนายก
  • นพ. เฉลิมชาติ รัตนเทพ   เหรัญญิก
  • .นพ.วิวัฒน์ กรีพานิช    เลขานุการ

วัตถุประสงค์หลักมี 4 ประการดังนี้

  1. ส่งเสริมความสัมพันธ์ ความเข้าใจอันดีและความสามัคคี
  2. เผยแพร่วิทยาการและแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นเกี่ยวกับแขนงวิชาออร์โธปิดิกส์ระหว่างแพทย์ รวมทั้งการให้การศึกษาต่อประชาชน
  3. รักษามาตรฐานของวิชาออร์โธปิดิกส์ และค้นความปรับปรุงผลงานต่าง ๆ
  4. ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

กิจกรรมของชมรมออร์โธปิดิกส์ส่วนใหญ่เป็นการประชุมวิชาการและธุรการหมุนเวียนไปตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ทุก 3-4 เดือน บางครั้งมีรปะชุมพิเศษมีการบรรยาย จากแพทย์ชาวต่างประเทศที่โรงพยาบาล

การเปลี่ยนแปลงสภาพเป็นสมาคม

เมื่อชมรมได้ดำเนินการกิจกรรมมาครบ 10 ปีเต็ม สมาชิกและกิจกรรมต่าง ๆ ก็ได้เพิ่มขึ้นมาก ทั้งด้านวิชาการ ธุรการ การเงิน กิจการต่างประเทศ คณะกรรมการบริหารของชมรมในขณะนั้นมี อ.นพ.คง สุวรรณรัต เป็นประธาน ได้พิจารณาถึงความจำเป็นและเหมาะสมต่างๆ อย่างถี่ถ้วน จึงเห็นสมควรให้ชมรมเปลี่ยนสภาพเป็นสมาคม

เมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.. 2518 คณะกรรมการบริหารของชมรมฯ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น คณะหนึ่ง เพื่อพิจารณาร่างกฏข้อบังคับของสมาคมฯ ดังมีรายนามดังต่อไปนี้

  1. ประธาน     นพ.ประเสริฐ นุตกูล
  2. กรรมการ   นพ.วิวัฒน์ กรีพานิช
  3. กรรมการ    นพ.ธำรงรัตน์ แก้วกาญจน์
  4. เลขานุการ   นพ.สิทธิ์ เตชะกัมพุช

เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.. 2518 ในการประชุมทางวิชาการ ณ โรงพยาบาลตำรวจ  ในการประชุมครั้งนี้ได้พิจาณาเลือกตราของสมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย ของ นพ.ดิเรก อิศรางกูร ณ อยุธยา

วันที่ 6 พฤษภาคม พ.. 2519 ได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นสมาคมทีชื่อว่าสมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทยและมีชื่อภาษาอังกฤษว่า  “The Thai Orthopaedic Association” เลขอนุญาตที่ ต. 92/2519 จากอธิบดีกรมการศาสนา

สำนักงานกลางของสมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย

ตั้งแต่เริ่มตั้งชมรมออร์โธปิดิกส์เป็นสมาคม สำนักงานของสมาคมฯ ขออยู่ในที่ที่ต้องเคลื่อนย้ายไปตามประธาน แจ้งว่าที่ตั้งที่ต้องการให้เป็นที่ตั้งของสำนักงานคือที่ไหน ไม่มีกำหนดชัดเจน สำนักงานกลางของสมาคมฯ ได้รับมอบที่อยู่เป็นสถานที่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน พ.. 2533 อยู่ที่ 73.05 ตรางเมตร ซึ่งที่ตั้งนี้จะใช้ในการประชุมกรรมการสัมมนา จำนวน 15 – 20 คน

วันที่ 18 มกราคม พ.. 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานนามอาคารนี้ อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี อาคารหลังนี้จะเป็นที่ตั้งของสถาบันการแพทย์เฉพาะทางสาขาต่าง ๆ ของประเทศไทย โดยสร้างบนพื้นที่ของแพทย์สมาคมแห่งประเทศไทย ความสูง 12 ชั้น พื้นที่ 22,000 ตารางเมตร สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณรับเป็นองค์ประธานอำนวยการจัดสร้างและเสด็ดเป็นองค์ประธานในวันเปิดอาคารเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.. 2540

นพ.พงษ์ศักดิ์ วัฒนา ประธานราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ฯ ในขณะนั้น มีมติให้ซื้อและย้ายสำนักงานของราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ฯ บนชั้น 4 ของอาคาร มีพื้นที่ 307 ตารางเมตร เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.. 2541 ทำบุญวันที่ วันที่ 30 กรกฎาคม พ.. 2541  จัดการประชุมกรรมการบริหารที่สำนักงานครั้งแรก วันที่ 25 มิถุนายน พ.. 2541

การดำเนินการจัดตั้งราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย

คณะกรรมการการบริหารสมาคมออร์โธปิดิกส์ร่วมกับที่ปรึกษาสมาคมได้เสนอแนวคิดในการจัดตั้งราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย เนื่องจาก

  1. การดำเนินการของสมาคมที่ผ่านมา จะต้องผ่านราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทยทุกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน ทั้งวิธีการ เนื้อหาวิชาและการจัดสรร มีการเพิ่มเติมกฏระเบียบและข้อจำกัดอีกหลายอย่าง ทำให้อนุกรรมการจัดสอบเพื่อหนังสืออนุมัติและวุฒิบัตร สาขาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ และสมาคมออร์โธปิดิกส์ ขาดความคล่องตัว
  2. ลักษณะที่แตกต่างจากศัลยศาสตร์ทั่วไปและเพื่อการปกป้องสิทธิประโยชน์ของสมาชิกแพทย์ออร์โธปิดิกส์จึงควรมีองค์กรของแพทย์ออร์โธปิดิกส์ ของตนเองที่กำกับตลอดจนการส่งเสริมความรู้ความสามารถแก่สมาชิกโดยตรง
  3. การเป็นองค์กรอิสระ ภายใต้การสนับสนุนดูแลและกำกับจากหน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแพทยสภาโดยตรงจะเป็นที่ยอมรับจากในประเทศและนานาประเทศ

สมาคมออร์โธปิดิคส์แห่งประเทศไทย จึงได้ประสานงานกับแพทยสภาและผู้รู้ทั้งหลาย จัดทำร่างข้อบังคับสภาว่าด้วยวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย และหลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์ออร์โธปิดิกส์หลักสูตร 4 ปีขึ้นและนำเสนอต่อที่ประชุมของสมาคมในปี พ.. 2536 ณ โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า คณะกรรมการของสมาคมฯ ได้ทำเรื่องเสนอที่ประชุมใหญ่ในปี พ.. 2537  ณ โรงแรมเชียงใหม่ออร์คิด หลังจากนั้นได้นำเสนอแพทยสภาในวันที่ 12 พฤษภาคม 2538 จนในวันที่ 2 พฤษจิกายน 2538 ก็ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับประกาศทั่วไปเล่มที่ 112  ตอนที่ 88 . ให้ตั้งเป็นวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย

ต่อมาในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.. 2539 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้วิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ แห่งประเทศไทย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า The Royal College of Orthopaedic Surgeons of Thailand (RCOST) โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับประกาศทั่วไป เล่ม 114 ตอนที่ 21 วันที่ 13 มีนาคม พ.. 2540